31.3.09

มาตรวจสุขภาพ ประจำปีกันเถอะ

มาตรวจสุขภาพ ประจำปีกันเถอะ

หลังจากโหมงานมาหนักและตะลอนเที่ยวสมบุกสมบันกันเต็มที่ทั้งปี ถึงเวลาเสียทีที่จะพาร่างกายไปตรวจเช็ค เพื่อที่ปีหน้าฟ้าใหม่ จะได้มีแรงพลังสร้างผลกับงานเต็มที่โดยไม่มีภัยโรคมาสกัดดาวรุ่ง สุดสัปดาห์คัดโรคที่กำลังติดอันดับคุกคามผู้หญิงไทยมาให้คุณได้รู้จัก ถ้าคุณมีอาการคลับคล้ายคลับคลาว่าใช่ ก็ไปพบคุณหมอได้เลย (รู้ไวก็มีโอกาสหายขาดไวเช่นกัน)

> มะเร็งช่องคลอดความจริงข้อหนึ่งของการเป็นโรคนี้ใช่ว่าจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังเกิดจากไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงที่ชอบใส่กางเกงในผ้าไนลอนที่อับชื้นหรือชุดรัดรูป ซึ่งรวมถึงกางเกงยีนฟิตๆ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อราที่จุดซ่อนเร้น และอาจถึงขั้นเป็นมะเร็ง

> หลอดเลือดในสมองแตกความน่ากลัวของโรคนี้คือ วันนี้คุณอาจคุยกับใครคนหนึ่ง เดิน วิ่ง ทำอะไรต่อมิอะไรด้วยกัน แต่วันพรุ่งนี้เขาอาจต้องทนทุกข์ทรมานกลายเป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ มีลมหายใจแต่ไร้ความรู้สึก เป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายนิทราไปก็ได้

> ช็อกโกแลตซีสต์คือโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ แพทย์เชื่อว่าเกิดจากเลือดระดูไหลย้อนกลับ คือแทนที่จะออกมาทางช่องคลอดตามปกติ ก็ไหลย้อนกลับเข้าไปผ่านทางหลอดมดลูก แล้วเข้าไปในช่องท้องไปฝังตัวที่รังไข่จนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำขึ้น ทำให้มีอาการปวดท้องมากเวลามีประจำเดือน

> หลอดเลือดหัวใจตีบตัน / กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดโรคนี้เป็นได้ทุกเพศทุกวัย หากคุณมีไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ทำให้ร่างกายมีไขมันในเลือดสูงความดันเลือดสูง เบาหวาน อ้วน สูบบุหรี่ เครียด และไม่ออกกำลังกาย ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจก็เสี่ยงต่อโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดด้วย

> หูเสื่อมหนุ่มๆ สาวๆ ที่นิยมเที่ยวดิสโก้เธ็คแทบทุกคืน รวมถึงผู้ที่ทำงานใกล้กับเครื่องลำโพงขยายเสียง (วัดความดังเกิน 90 เดซิเบล) เช่น อาชีพหนุ่มสาวพริตตี้ หรือแม้แต่คนที่ชอบแวะงานอีเว้นท์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตามที แต่หากสนใจเฉพาะเนื้องาน โดยไม่ระมัดระวังลำโพงตัวดีแล้วละก็ โอกาสของการเป็นโรคหูเสื่อมก็จะเกิดขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้หนุ่มๆ สาวๆ ที่รักการเที่ยวกลางคืนก็ควรเพลาๆ การเที่ยวลง หรือหากไปเที่ยว พึงเตือนตัวเองว่าอย่าเข้าใกล้ลำโพงที่มีเสียงดังมากๆ เพราะจะกระทบต่อการได้ยินได้ฟังได้

> หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาทโรคนี้เป็นกันตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงสูงอายุ ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาท เกิดได้กับหมอนรองกระดูกตั้งแต่ระดับกระดูกสันหลังส่วนคอจนถึงส่วนเอวแตก และมีส่วนไส้ของหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนถอยหลังกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยปวดขาชา อ่อนแรง

> ไวรัสตับอักเสบซีกลุ่มเสี่ยงของผู้ที่เป็นโรคนี้ค่อนข้างหลากหลาย แต่สำหรับผู้อ่าน สุดสัปดาห์ ที่นิยมการสัก การเจาะลายต่างๆ ตามผิวหนังรวมถึงเจาะหู ให้พึงระวังเรื่องความไม่สะอาด

The One & Only

นี่เป็นรายชื่อโรงพยาบาลรักษาเฉพาะด้าน เพื่อให้ผู้ป่วยเลือกเข้ารับการรักษาอย่างตรงจุดมากขึ้น

1. ศูนย์มะเร็งที่ตั้ง : ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลสมิติเวช รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง โทร. 0-2731-7000
2. โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพที่ตั้ง : โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ โรงพยาบาลหัวใจแห่งแรกในประเทศไทย ให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจให้ทัดเทียมต่างประเทศ โทร. 0-2310-3000 หรือ 1719
3. โรงพยาบาลมนารมย์ที่ตั้ง : โรงพยาบาลมนารมย์ ให้บริการดูแลรักษาเฉพาะทางสุขภาพจิตและจิตเวชอย่างครบวงจร โทร. 0-2725-9595
4. ศูนย์โรคตับและปลูกถ่ายตับที่ตั้ง : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รักษาโรคตับ การเปลี่ยนตับ การปลูกถ่ายตับ การบริจาคตับ และการเปลี่ยนตับในประเทศไทย โทร. 0-2256-4286, 0-2256-4514
5. ศูนย์พิษวิทยาที่ตั้ง : โรงพยาบาลรามาธิบดี หน่วยงานที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายจากสารเคมี ยาหรือสารพิษต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 0-2354-7272, 0-2201-1083
6. ศูนย์นารีรักษ์ที่ตั้ง : โรงพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงที่ได้รับความรุนแรงในครอบครัว รามาธิบดี อาคาร 1 ชั้น 2 โทร. 0-2201-1103
7. ฝ่ายเภสัชกรรมที่ตั้ง : โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้บริการข่าวสาร ความรู้ บทความ และคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยา โทร. 0-2201-1271
8. โรงพยาบาลจักษุรัตนินที่ตั้ง : โรงพยาบาลจักษุรัตนิน โรงพยาบาลเฉพาะทางตาแห่งแรกของประเทศไทย ให้บริการรักษาโรคตาทุกชนิด โทร. 0-2639-3399
9. ศูนย์โรคกระดูกสันหลังกรุงเทพที่ตั้ง : ศูนย์โรคกระดูกสันหลังกรุงเทพ โรงพยาบาลเจ้าพระยา ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพฯ โทร. 0-2884-7000 ต่อ 1141
10. โรงพยาบาลตา หู คอ จมูกที่ตั้ง : โรงพยาบาลตา หู คอ จมูก โรงพยาบาลเชี่ยวชาญเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคตา หู คอ จมูก และทันตกรรม โทร. 0-2886-6600 - 16
11. โรงพยาบาลยันฮีที่ตั้ง : โรงพยาบาลยันฮี ให้บริการศัลยกรรมความงามด้วยมือแพทย์ ตั้งอยู่เลขที่ 454 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 90 บางอ้อ บางพลัด กรุงเทพฯ โทร. 0-2879-0300
12. ศูนย์ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองและการนอนหลับที่ตั้ง : โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โทร. 0-2235-1000 - 7, 0-2634-0560 - 79 ต่อ 2685 - 6
13. คลินิคเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทางที่ตั้ง : โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ให้คำปรึกษาก่อนและหลังการเดินทางไปต่างประเทศ การฉีดวัคซีนป้องกันโรค การป้องกันมาลาเรีย และการรักษา โทร. 0-2354-9100 ต่อ 1420

ที่มา : สุดสัปดาห์

27.3.09

ประโยชน์ของการหัวเราะ

ประโยชน์ของการหัวเราะวันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีประโยชน์จากการหัวเราะมาบอก...

- ความดันโลหิตลดลง
- ฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียดลดลง ขณะเดียวกันการทำงานของฮอร์โมนต่าง ๆ ก็เป็นปกติ
- กระตุ้นระบบภูมิชีวิต (Immune system) ทำให้ T-celll ซึ่งเป็นทหารประจำตัว คอยกำจัดเชื้อโรคเพิ่มจำนวนขึ้น รวมถึงแอนตี้บอดี้อื่น ๆ ในร่างกายด้วย
- คลายความเจ็บปวด อารมณ์ขันทำให้ผู้ป่วยลืมความเจ็บปวด และยังกระตุ้นการสร้างเอ็นดอร์ฟินในร่างกาย ซึ่งเป็นฮอร์โมนระงับปวดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
- กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย ขณะที่หัวเราะ กล้ามเนื้ออื่น ๆ ที่ไม่ได้สัมพันธ์กับการหัวเราะ จะผ่อนคลาย และเมื่อหยุดหัวเราะ กล้ามเนื้อที่สัมพันธ์กับการหัวเราะ ก็จะผ่อนคลาย เป็นการทำงานสองขั้นตอน
- หายใจดีขึ้น การหัวเราะบ่อย ๆ ทำให้ปอดโล่ง หายใจได้ลึกขึ้นดีมาก ๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ
รู้อย่างนี้แล้ว หันมาผ่อนคลายจิตใจ หัวเราะให้บ่อยขึ้น แต่อย่ามากกว่าปกติ เดี๋ยวคนรอบข้างจะหาว่า...ไม่รู้ตัว

25.3.09

วิธีเพื่อเท้าสวย

เท้าก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เรารู้ถึงความเอาใจใส่ดูแลตัวเองมากแค่ไหน ถ้าอยากมีเล็บเท้าสวยๆไว้อวดตอนใส่รองเท้าเปลือยๆ ต้องทำตามวิธีนี้


1. หาน้ำอุ่นมาแช่เท้าสัก 2 นาที ใส่เกลือสำหรับอาบน้ำลงไปด้วย แล้วใช้หินขัดผิวที่หยาบกร้านบริเวณส้นเท้านิ้วเท้า
2. ดูแลตัดเล็บเท้าให้เป็นแนวตรงอยู่เสมอ และใช้ตะไบเล็มเล็บตามส่วนริมด้วย
3. เล็บสวยแล้วหนังแข็งๆบริเวณริมขอบเล็บก็อย่าลืมตัดให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
4. นวดเท้าของคุณด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดเข้มข้น หรือจะเป็นครีมสำหรับทาเท้าโดยเฉพาะก็ได้
5. เพื่อให้เล็บแข็งแรงคงทน สวยนานควรทาเคลือบเล็บด้วยผลิตภัณฑ์เคลือบเล็บเป็นขั้นตอนสุดท้าย


รับรองว่าทำตามขั้นตอนทั้ง 5 นี้แล้วคุณจะมีเล็บเท้าสวยน่ามอง.....

22.3.09

Tips ในการเลือกสีทาเล็บ

Tips ในการเลือกสีทาเล็บ

วันนี้แสนเสน่ห์อยากทาเล็บถึงแม้เล็บจะสั้นก็ตาม แต่ก็อยากทาให้มั่นใจว่าเล็บฉันสวย เวลาจับมือชายใด หรือเค้าขอจับมือจะได้ไม่อายเค้า แต่ไม่รู้จะทาสีอะไรดี
ใครนึกออกช่วยบอกที.........

สีอ่อนเข้าไว้
ถ้าคุณยังไม่คล่องพอที่จะทาสีเล็บด้วยตัวเอง หรืออยู่ในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่อยากทาสีเล็บเพื่อออกงาน ให้เลือกสีเล็บที่มีเฉดสีอ่อน เพราะหากทาสีเล็บเลยไปหรือทาไม่เต็ม
หรือไม่เนียนพอจะได้เห็นไม่ชัด

เลือกสีตามเทรนด์
ลองมองหาเทรนด์สีเล็บที่นิยมกันด้วยการสังเกตเวลาเข้าร้านทำเล็บว่าสีไหนที่ถูกใช้งานไปเยอะมากที่สุดนั่นแหละคือสีที่ใช่

ยิ่งสั้นสียิ่งสวย
ถ้าต้องการทาเล็บสีสว่างสดใส ควรตัดเล็บให้สั้นกว่าปกติสีเล็บที่สดใสจะช่วยดึงความสนใจได้เพียงพอแล้ว

บำรุงเล็บบ้าง
ถ้าเล็บของคุณบาง อ่อนแอ และฉีกขาดง่าย ทานวิตามินเสริมอย่างธาตุเหล็กบ้าง วันละเม็ด นอกจากนี้ควรทาท๊อปโค้ทที่ปราศจากสารฟอร์มัลดิไฮด์ และทำจากโปรตีนช่วย
บำรุงให้เล็บแข็งแรงเสริมเข้าไปด้วย

รูปทรงของเล็บก็สำคัญ
ไม่จำเป็นต้องไว้ให้ยาวเสมอไปถึงจะสวย เพียงดูแลและตัดเล็บให้ได้รูปร่างที่สวยงามก็ใช้ได้แล้ว อย่างตอนนี้เทรนด์เล็บนิยมการตัดเล็บแนวสี่เหลี่ยมปลายมนเล็กน้อย
ถ้าไม่อยากทาสีเล็บก็ทาท๊อปโค้ทบำรุงเล็บ แถมช่วยให้เล็บเป็นเงางามสวยด้วย

แต่อย่าวิ่งตามกระแสความแรงของแฟชั่นมากนะคะเพราะกลัวว่าเล็บน่ะสวยแต่สุขภาพของเล็บจะแย่เอานะคะ เพราะว่าถึงอย่างไรก็ตามการมีเล็บสวยและดูสะอาดตา
เป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดค่ะ

19.3.09

ยิ่งนอนดึก ยิ่งเร่งวันตาย

ยิ่งนอนดึก ยิ่งเร่งวันตาย

การนอนดึกเป็นเหตุให้อายุสั้น เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง การทำงานดึกทำให้ร่างกายล้า เหมือนกับ เครื่องยนต์ overload ไม่ช้าเครื่องก็พัง วิธีแก้ไขในกรณีต้องทำงานดึก (เพื่อไม่ให้ร่างกายโทรมเร็ว)ผู้ที่มีหน้าที่บริหารงานมักจะพบปัญหานี้กันมาก เพราะต้องเร่งงาน ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนนอนดึก

1. ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการล้า
2. ระบบร่างกายจะรวน ดังนี้

ระบบการย่อยอาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อง่าย อาหารย่อยไม่ดี ทำให้อุจจาระหยาบ คืออาหารที่ทานเข้าไป ถ้าไม่นอนดึก อุจจาระจะสวย ไม่มีเศษอาหารติดอยู่ เหมือนกับแท่งทอง แต่ถ้าอดนอนแล้วอุจจาระจะหยาบ จะมีเศษ อะไรต่างๆ ติดอยู่ เหมือนกับรถที่มีเขม่าติด เกิดจากการที่ร่างกายย่อยไม่หมด เพราะล้า แนวทางแก้ไข ให้ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารเหนียวๆ มิฉะนั้นลำไส้ทำงานหนัก ยิ่งนอนดึกแม้ เราหลับไปแล้ว แต่ลำไส้ไม่หลับ ยังคงย่อยอยู่ต่อไป พอตื่นขึ้นมาก็เพลีย ให้ทานไข่ นม แทนพวกเนื้อ สัตว์ ก็จะพอถูไถไปได้ มิฉะนั้นท้องจะผูกเป็นประจำ ริดสีดวงทวารจะถามหา (ถ้าหากอ้วนก็ให้ทานนม แทนไข่)

ท้องผูก มี 2 ลักษณะ
1. ผูกแข็ง คือ อุจจาระแข็ง

2. ผูกเหลว คือ อาการถ่ายอุจจาระไม่หมด ยังค้างอยู่ แต่ลำไส้ล้า กระเพาะอาหารล้า ทำให้ไม่มี แรงบีบให้ออกจนหมด

ดังนั้นในวันหนึ่งๆ จึงต้องถ่ายหลายครั้ง โรคที่จะตามมาก็คือ ผื่นคันบริเวณขาหนีบ (ไม่ใช่เพราะความ สกปรกหมักหมม) จะคันทั้งวัน ปกติอุจจาระจะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ถ้าแข็งแสดงว่าส่วนที่เป็นน้ำได้ซึมกลับเข้ามาในลำไส้ ซึ่ง มันเป็นของเสีย ที่ต้องขับออก ผลก็คือทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะมาประทุบริเวณเนื้ออ่อนๆ เช่นที่ขาหนีบ สาเหตุก็มาจาก ท้องผูกนั่นเอง เพราะฉะนั้น อย่านอนดึก ถ้าต้องดึกก็ให้ออกกำลังหน้าท้อง ให้ท้องเกิดกำลัง จะได้รีดอุจจาระออกมา ได้เร็ว ทานเสร็จแล้วอย่านอน ให้เดินสักครึ่งชั่วโมง เพราะพอขาได้เดิน ลำไส้มันก็ต้องไปกับขาด้วย จะช่วย ทำให้ย่อยได้ดีขึ้น ท้องจะผูกน้อยลง ผื่นคันก็จะหาย ถ้ายังไม่หาย (เนื่องจากอายุมาก) ให้ทานน้ำขิงสด (ไม่ใช่ขิงผง เป็นซองๆ) พวกที่นอนดึกต้องให้ท้องอุ่นมากๆ ให้หาผ้ามาห่ม เดี๋ยวท้องจะอืด เฟ้อ บางทีต้องให้เท้าอุ่นด้วย ให้หา ถุงเท้ามาใส่ มิฉะนั้นเท้าจะชา


ระบบปัสสาวะ ถ้านอนไม่ดึก ประมาณ 3-4 ทุ่ม พอตื่นเช้าขึ้นมาจะปัสสาวะครั้งเดียวจบ แต่ถ้านอนดึก ยิ่งนอนตีหนึ่ง กลางดึกจะต้อง ลุกเข้าห้องน้ำถี่ เพราะร่างกาย overload ต้องการน้ำมาก กล้ามเนื้อข้างในจะบีบคั้นเอาพลังงานออ กมาใช้ จึงต้องใช้น้ำมาก ผลก็คือปัสสาวะบ่อย ทำให้พวกเกลือแร่ที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะด้วย ยิ่งอายุ 35 ขึ้นไปจะยิ่งแย่ แนวทางแก้ไข ให้ทานแคลเซี่ยมเม็ดได้ แต่อย่ามาก แค่ 1 เม็ดก็พอ ถ้าทานมากจะทำให้แคลเซี่ยมพอก คืออาการที่กระดูกงอกทับเส้นประสาท (ถ้าเป็นแล้วต้องให้คนนวด และทานยาละลายแคลเซี่ยมช่วย) ถ้าไม่ทานแคลเซี่ยมชดเชย จะทำให้เลือดจาง เม็ดโลหิตจาง สรุปแล้วการอดนอน เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง การนอนดึกต้องดื่มน้ำให้มาก และเติมเกลือในน้ำด้วย คือพอเราดื่มแล้วมันออกมาหมดทั้งทางปัสสาวะแล ะเหงื่อ เราทานเกลือมากๆ ยังออกทางเหงื่อได้ แต่ถ้าทานแคลเซี่ยมมากทำให้กระดูกงอก ส่วนโค้ก เป๊ปซี่ กระทิงแดง


อย่าทาน พอเราอยู่ดึกและกลั้นปัสสาวะ มันจะซึมกลับเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะไปประทุที่ขาหนีบ หรือท้องแขนเป็นเม็ดแดงๆ เป็นจ้ำขึ้นทั่วเลย บางคนไม่กลั้น แต่ดื่มน้ำน้อย อาการก็จะเหมือนกับการโม่ แป้งฝืดๆ ลำไส้บีบตัวไม่ไหว ต้องเค้น ก็จะเพลีย แต่ถ้าดื่มน้ำมาก ทำให้ถ่ายสบาย ถ้าดื่มน้ำน้อยจะทำให้กรดยูเรียเข้มข้น พอเรากลั้นปัสสาวะมันก็จะซึมเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ถ้ากลั้นบ่อยๆ จะทำให้ปัสสาวะไม่หมด ระบบเหงื่อ คนที่ไม่มีเหงื่อออก จะแย่ ถ้าขับเหงื่อให้ออกได้ร่างกายสบาย ถ้าเหงื่อไม่ออกความร้อนภายในร่างกา ยจะระบายไม่ได้ ทำให้อึดอัด ของเสียในร่างกายก็ออกไม่ได้ โรคผิวหนังจะถามหา สิวฝ้าจะขึ้น เพราะฉะนั้น ดื่มน้ำให้มากพอและออกกำลังกาย เท่านั้นพอ เอาจนเหงื่อออกให้ได้ คนนอนดึกเหงื่อจะไม่ค่อยออก ของเสียตกใน สิวฝ้าขึ้น มันก็จะไปออกทางปัสสาวะแทน ไตเลยทำงาน หนัก

ระบบหายใจ ระบบหายใจจะเสียตามมา ร่างกายจะเอาออกซิเจนไปแลกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงได้ต้องมีความชื้น ถ้าความชื้นน้อยมันจะไม่แลก ทำให้อึดอัด เหมือนอยู่ห้องแอร์แล้วอึดอัด เพราะความชื้นไม่พอ ไม่ใช่ อากาศไม่พอ อากาศมันแห้งเลยเอาความชื้นในตัวเราไป ทำให้ปอดทำงานไม่สะดวก และออกซิเจนไม่ ได้ แนวทางแก้ไข ให้เอาน้ำใส่กะละมังไว้ข้างตัว ยิ่งเป็นน้ำร้อนยิ่งดี ถ้าอึดอัดให้เอาผ้าหนุนเท้าให้สูง เลือดก็จะไหลลงมาได้ จะทำให้นอนสบาย การดื่มน้ำหวานๆ ตอนอยู่ดึกๆ ก็ช่วยได้ แต่อย่าหวานมากจะทำให้อ้วน ถ้าจะให้ดีที่สุดอย่าอยู่ดึก ดึกได้ เป็นครั้งคราวถ้าจำเป็น คนนอนดึกเสียงจะแห้ง เพราะไตมันล้า การใช้สบู่ ให้ใช้สบู่เด็ก เพราะเป็นสบู่อ่อน การกัดจะน้อย อย่าใช้สบู่แรงๆ ให้ฟอกสบู่วันละครั้งก็พอ ถ้าฟอกวันละหลายๆ ครั้งไขมันจะหมด จะทำให้ผิวแตก ถ้าคันมากๆ อันเนื่องมาจากการนอนดึก ถ้า เราไม่ทราบเราจะยิ่งฟอกสบู่หนักเข้าซึ่งไม่ดี ให้ฟอกวันเว้นวัน การดูแลรักษาร่างกายให้ดี จะทำให้นั่งสมาธิได้ดี นั่งได้นาน ไม่คัน ไม่เข้าห้องน้ำบ่อย


ที่มา : mcot.net

17.3.09

7 สุดยอดอาหารของผู้หญิง

7 สุดยอดอาหารของผู้หญิง

กีวี เป็นผลไม้ที่มีระดับของวิตามินซีสูงที่สุดชนิดหนึ่ง เรียกว่าเกือบ 2 เท่าของวิตามินซี ที่จะได้จากส้ม 1 ผล เลยทีเดียว วิตามินซีเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซับธาตุเหล็กและโฟเลตอันเป็นสารอาหารที่ผู้หญิงต้องการมากที่สุดได้ดีขึ้น โดยปริมาณของกีวีที่ผู้หญิงต้องการในแต่ละวันนั้นก็เพียงครึ่งผลเท่านั้น จะให้พลังงานเพียง 46 แคลอรี่

เต้าหู้ถั่วเหลืองเต้าหู้ถั่วเหลือง 1 ชิ้นจะให้ปริมาณโปรตีนสูง ยิ่งกว่านั้นในเต้าหู้ถั่วเหลืองยังมีสารที่เรียกว่า ฟีโตฮอร์โมน เป็นสารที่จะช่วยให้การทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน และพวกต่อมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการมีประจำเดือนของผู้หญิงทำงานอย่างเป็นปกติ ต่อไปนี้คุณคงจะต้องเพิ่มเต้าหู้ถั่วเหลืองในมื้อใดมื้อหนึ่งของวันซะแล้วล่ะคะ

ถั่วลิสงเป็นอาหารอีกชนิดที่อุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งนอกจากประกอบไปด้วยใยอาหารจำนวนมาก ที่จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารของคุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การรับประทานถั่วลิสงยังให้ประดยชน์สูงสุด ในหนึ่งมื้อควรจะรับประทานถั่วลิสงให้มากกว่า 7-8 กรัมขึ้นไป เพราะร่างกายนั้นต้องการไฟเบอร์ถึง 25-30 กรัม ต่อหนึ่งวัน

ข้าวกล้อง ให้สารอาหารอันเป็นประโยชน์แก่ร่างกายมากกว่าข้าวขาวถึงเท่าตัว โดยเฉพาะวิตามิน บี อี รวมไปถึงโฟเลต ที่เป็นสารอาหารสำคัญที่จะปกป้องคุณจากการเป็นโรคหัวใจ ที่สำคัญ วิตามิน อี ในข้าวกล้อง ยังมีประโยชน์ต่อการทำงานของร่างกายหลายๆ ส่วน รวมไปถึงเรื่องสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย

กะหล่ำ หรือที่รู้จักกันว่าเป็นผักต้านมะเร็ง ซึ่งนอกจากต้านมะเร็งแล้ว สารอาหารในกะหล่ำยังมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเซลล์ภายในร่างกายอีกด้วย ที่สำคัญผักกะหล่ำสามารถให้ผู้หญิงนำไปทำได้หลายเมนูไม่มีเบื่อ

มันฝรั่ง แค่มันฝรั่งผลขนาดพอเหมาะ ก็สามารถให้วิตามินเอ คุณได้อย่างเพียงพอ วิตามินเอที่มากับมันฝรั่งนี้เอง จะช่วยคุณในเรื่องของสุขภาพตา สุขภาพของเส้นผม รวมไปถึงสุขภาพฟันให้แข็งแรง

แซลมอน นอกจากจะเป็นอาหารที่มีไขมันและแครอรี่ต่ำแล้ว ยังมีสารอาหารสำคัญอย่าง โอเมก้า 3 อีกด้วย นอกจากนี้ก้างปลาอ่อนๆ ของแซลมอนยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญสำหรับผู้หญิง เพื่อป้องกันการเป็นโรคกระดูกพรุนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

อาหารทั้ง 7 อย่างเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของอาหารอีกหลากชนิดที่มีให้เราเลือกทาน แต่ก็นับว่าเป็นอาหารสำคัญสำหรับผู้หญิงในการดูแลสุขภาพตัวเอง ดังนั้นการบริโภคของที่มีประโยชน์บ้างก็จะดีมาก แล้วก็ตามใจปากตัวเองให้น้อยลงสักหน่อย เท่านี้คำว่า สวยสุขภาพดี จะไปไหนเสีย

15.3.09

เมล็ดพืช ไม่ขัดขาว มีประโยชน์ต่อ หัวใจ

เมล็ดพืช ไม่ขัดขาว มีประโยชน์ต่อ หัวใจ

ตัวเมล็ดพืชประกอบด้วยหลักใหญ่ 3 ส่วน คือ รำ จมูก และโภชนาสาร แต่เมล็ดพืชที่ขัดขาวจะกำจัดตัวที่เป็นรำข้าวและจมูกออกไป ซึ่งทำให้เส้นใยและคุณค่าทางอาหารหมดไป

เมล็ดพืชที่ขัดขาวไม่สามารถช่วยปกป้องหัวใจได้เลย นอกจากนี้เมล็ดพืชไม่ขัดขาวจะช่วยลดโคเลสเตอรอล และเพิ่มวิตามินให้ได้หลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยหัวใจ ตัวอย่างของเมล็ดพืชไม่ขัดขาว คือ เมล็ดข้าวสาลีไม่ฟอก ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวนก ข้าวบาร์เลย์ ข้าวป่า ข้าวไรย์ ข้าวโพด บัควีท

ผลงานวิจัยจากอเมริกา ระบุว่า คนที่กินเมล็ดพืชไม่ขัดสองมื้อครึ่ง จะมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เพียง 1 ใน 5 ของคนที่ไม่กิน ทั้งนี้วิเคราะห์จากคน 149,000 คน แต่ก็พบด้วยว่ามีน้อยคนที่ใส่ใจกับการกินอาหารที่ไม่ขัด นักวิจัยจากอเมริกาต่างพากันลงความเห็นว่า ต้องเพิ่มความพยายามให้ผู้ป่วยกินอาหารประเภทนี้ เพราะคนที่กินข้าวไม่ขัดขาววันละ 2.5 มื้อจะลดความเสี่ยงต่อการป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ 21%

เคล็ดลับในการกินเมล็ดพืชไม่ขัด


ตามคำแนะนำของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าจะต้องกินเมล็ดพืชไม่ขัด ให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของอาหารที่กินในแต่ละวัน ดังนั้นมื้อต่อไปแทนที่จะกินขนมปังขาว ก็ให้กินขนมปังที่ทำจากแป้งที่ไม่ฟอก และกินข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวป่าแทนข้าวขัดขาว ถ้ายังกินไม่ได้ล้วน ๆ ก็ค่อย ๆ ผสมในข้าวเดิม ๆ ที่กิน แล้วเพิ่มปริมาณ นอกจากนั้นก็อาจเติมเมล็ดพืชไม่ขัดขาว เช่น ข้าวป่า ข้าวโพด ข้าวกล้อง ฯลฯ ลงในแกงจืด หรือปรุงในอาหารบางอย่างก็ได้

ที่มา :เดลินิวส์

10.3.09

เคล็ดลับผิวขาวอมชมพู 'โยเกิร์ตสครับสูตรน้ำผึ้ง

เคล็ดลับผิวขาวอมชมพู 'โยเกิร์ตสครับสูตรน้ำผึ้ง


สาวๆ ยุคใหม่ที่กำลังมองหาวิธีดูแลผิวพรรณให้เรียบ เนียน สวยอยู่ตลอดเวลา วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม นี้ รายการ "เคล็ดลับวันหยุด" ที่มาพร้อมกับพิธีกรสาวหุ่นเพรียว "คาร่า พลสิทธิ์" จะมาบอกเคล็ดลับเพื่อผิวขาวสุขภาพดีที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากกับเคล็ดลับ "โยเกิร์ตสครับสูตรน้ำผึ้ง" ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่า

"คาร่ามีผิวขาวสุขภาพดีได้ ก็เพราะคาร่าได้บำรุงผิวพรรณจากโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติ และถ้าพูดถึงโยเกิร์ตแลวใครๆ ก็รู้ว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่า แถมยังเป็นอาหารผิวที่ดีได้อีกด้วยค่ะ ส่วนน้ำผึ้งนอกจากเป็นยาอายุวัฒนะแล้ว ก็ยังมีคุณค่าในด้านความสวยความงามด้วยค่ะ

สำหรับส่วนผสมของเคล็ดลับ "โยเกิร์ตสครับสูตรน้ำผึ้ง" เริ่มจากน้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ จมูกข้าวสาลี 2 ช้อนโต๊ะ และโยเกิร์ตเปล่า 1 ถ้วยค่ะ นำมาคนให้เข้ากันแล้วนำมาทาให้ทั่วตัว จากนั้นใช้ปลายนิ้วขัดผิวเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกมาหลังล้างออก และยังเพิ่มความชุ่มชื้นและคงความขาวเนียนให้กับผิวได้อีกด้วยค่ะ อย่าลืมบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของโยเกิร์ตเป็นประจำ ให้ทั่วทุกส่วนของร่างกายนะคะ เพื่อคุณจะได้เป็นเจ้าของผิวที่ขาว อมชมพูอย่างมีสุขภาพดีตลอดไปค่ะ"

ที่มา :
NEWSWIT.COM

7.3.09

เคล็บลับผิวขาวนุ่มชุ่มชื่น

เคล็บลับผิวขาวนุ่มชุ่มชื่น

ถ้าคุณต้องเผชิญกับศัตรูความงามทุกๆ วัน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อคืนความขาวเนียนสดใสให้กับผิว ทั้งนี้เคล็ดลับง่ายๆ ก็มีอยู่ว่า


"ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์สม่ำเสมอ ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการทามอยส์เจอร์บำรุงผิวก็คือ หลังจากอาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวพอหมาดเหลือทิ้งความชุ่มชื้นไว้บนผิวบ้างก่อนทามอยส์เจอร์ เพื่อเก็บรักษาความชุ่มชื่นให้อยู่กับผิวได้นานขึ้น"

หากต้องทำงานในห้องแอร์หรือสัมผัสกับอากาศร้อนอบอ้าวทุกวัน การบำรุงผิวหลังจากอาบน้ำตอนเช้าหรือตอนเย็นอาจไม่เพียงพอ ควรจะขยันบำรุงผิวขึ้นอีกนิด วิธีง่ายๆ คือ แค่พกพามอยส์เจอร์บำรุงผิวที่ซึมซับอย่างรวดเร็วติดกระเป๋าหรือใส่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานไว้ เพื่อเติมความชุ่มชื่นระหว่างวันได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะบริเวณแขน ขา หรือข้อศอก ทุกวันที่ต้องออกไปผจญกับแสงแดดเช่นเดียวกัน คุณควรปกป้องผิวสวยจากรังสียูวีด้วยครีมกันแดดทุกวัน และพยายามหลีกเลี่ยงการออกไปสัมผัสกับแสงแดดแรงกล้าในช่วงระหว่าง 10 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น

หากต้องการคืนความขาวให้กับผิวของคุณ ต้องเลือกครีมบำรุงผิวอย่างเหมาะสม การดื่มน้ำให้พอเพียงวันละประมาณ 8 แก้วต่อวัน เท่ากับเป็นการเติมทั้งความสดชื่นให้กับร่างกายแล้วยังเป็นการช่วยเติมน้ำให้ผิวคงความชุ่มชื่นอีกด้วยค่ะ ถ้าคุณจำไม่ได้ว่าแต่ละวันดื่มน้ำได้วันละ 8 แก้วตามคำแนะนำที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง ลองวางขวดน้ำดื่มและวางแก้วไว้บนโต๊ะทำงาน เพื่อเตือนใจว่าแต่ละวันได้ดื่มน้ำพอเพียงหรือยัง

ที่มา :
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

5.3.09

วิธีการขัดผิวให้ขาวขึ้น

วิธีการขัดผิวให้ขาวขึ้น

ตอนนี้เมื่อพูดถึงการดูแลรักษา
ผิวพรรณของสุภาพสตรี ถามใคร ใครก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากมีสุขภาพผิวที่ดี และที่สำคัญอยากมีผิวที่ขาวขึ้นกันทั้งนั้น ก็เลยทำให้ผลิตภัณฑ์ประเภท Whitening ออกมาจำหน่ายกันมากมายหลายยี่ห้อ คราวที่แล้วเราเคยแนะนำผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ช่วยทำให้ผิวหน้าขาวใสไปแล้ว คราวนี้เรามีสูตรลับจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ช่วยขัดผิวกายให้ขาวขึ้นมาฝากค่ะ อุปกรณ์ความขาว

1. เกลือเม็ดหยาบ
2. น้ำมันมะกอก
3. น้ำมะนาว

ขั้นตอน
นำเกลือมาผสมกับน้ำมันมะกอกในปริมาณที่เหมาะสม เสร็จแล้วเติมมะนาวลงไปกะดูให้พอเข้มข้น โดยเกลือจะทำหน้าที่ลอกผิวหนังที่ตายแล้วและทำความสะอาดผิวได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำมะกอกทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื่น และน้ำมะนาวนี่เองที่ทำให้ผิวขาวขึ้น แต่ควรผสมในปริมาณน้อยเพราะน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ขณะอาบน้ำให้ลองขัดผิวของคุณด้วยส่วนผสมดังกล่าวแล้วล้างออก ผิวของคุณจะเหมือนลูกพีชที่จุ่มในน้ำผึ้งยังไงอย่างงั้น แต่ก็อย่าลืมนะคะ ควรทดสอบก่อน ถ้ารู้สึกระคายเคืองให้ล้างออกแล้วหยุดใช้ทันที

ที่มา :
fwdder.com

3.3.09

เคล็ดลับ แปรงผิวเพิ่มพลัง

เคล็ดลับ แปรงผิวเพิ่มพลัง

เช้าๆ ตื่นขึ้นมา มีใครที่มักรู้สึกเพลียจนไม่อยากลุกจากเตียงบ้างไหมคะ อาการแบบนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากการพักผ่อนน้อย กินอาหารผิด และขาดการออกกำลังกาย ซึ่งอาการดังกล่าวก็เตือนให้เรารู้ว่าต้องดูแลสุขภาพให้เข้ารูปเข้ารอยได้แล้ว

นอกจากการกิน พักผ่อน ออกกำลังกายที่ช่วยสร้างสุขภาพดี วันนี้เรามีอีกตัวช่วยหนึ่งมาบอกต่อ เพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าในทุกๆ วัน นั่นก็คือ วิธีวิธีแปรงผิวขณะอาบน้ำในทิศทางดังต่อไปนี้จะช่วยให้สดชื่นไปทั้งวัน ไปทำตามกันเลย

- อาบน้ำแล้วใช้แปรงขัดผิวแปรงผิวไปตามทิศทางจากปลายแขนและขาขึ้นไปสู่ทิศทางของที่ตั้งหัวใจ - ส่วนหน้าอก ก็ให้แปรงจากด้านข้างเข้าหาตรงกลาง
- ส่วนไหล่กับหลังให้แปรงถูเข้าถูออก

วิธีแปรงผิวกายนี้เป็นการแปรงไปตามทิศทางของเส้นเลือดดำ ช่วยเรื่องการหมุนเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี หากทำเป็นประจำทุกวันจะรู้สึกคล่องแคล่วเบาสบาย ผิวพรรณดี นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้หัวใจ กระเพาะ และลำไส้แข็งแรงด้วย

ที่มา : ชีวจิต

1.3.09

เคล็ดลับผิวสวยด้วยน้ำ

เคล็ดลับผิวสวยด้วยน้ำ

ดื่มน้ำเฉพาะตอนที่คอแห้ง เพื่อดับกระหาย หรือดื่มระหว่างทานอาหารเท่านั้น คงยังไม่เพียงพอ!! ถ้าอยากผิวสวยและสุขภาพดี แบบไม่ต้องลงทุนซื้อครีมบำรุงกระปุกละเป็นหมื่น ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดื่มน้ำกันใหม่ ด้วย 7 เทคนิคการดื่มน้ำสไตล์เอเวียงจากฝรั่งเศส

1) เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำ ลองดื่มน้ำแร่ธรรมชาติให้ได้วันละ 2 ลิตร ติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำบริสุทธิ์ในปริมาณที่ต้องการ และคุณจะสังเกตเห็นความแตกต่าง น้ำไม่เพียงจะช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง แต่ยังควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสม, ช่วยย่อยและดูดซึมอาหาร รวมทั้งขับของเสียไปตามกระแสเลือด

2) วางน้ำดื่มไว้ข้างเตียงก่อนเข้านอน ถ้าตื่นขึ้นมากลางดึก จะได้เทน้ำดื่มสักแก้ว เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย และช่วยให้สามารถนอนหลับต่อได้อย่างง่ายดาย

3) พกพาน้ำดื่มติดตัวไปทุกที่ ทั้งในรถ, ระหว่างการเดินทาง, เวลานั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรือตอนดู ทีวี การดื่มน้ำให้ติดเป็นนิสัยจะทำให้สุขภาพดี

4) ดื่มน้ำจากขวดให้ได้บ่อยที่สุด เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำของคุณ เพราะทำให้ดื่มง่ายและสะดวกต่อการพกพา

5) ดื่มน้ำให้สม่ำเสมอเมื่อเล่นกีฬา โดยดื่มน้ำก่อนและระหว่างการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังควรดื่มน้ำหลังจากเล่นกีฬาในปริมาณที่มากพอ เพื่อชดเชยการเสียเหงื่อของร่างกาย

6) ไดเอตด้วยน้ำ ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารกลางวัน จะช่วยลดอาการหิว และควบคุมปริมาณการทานอาหาร

7) ดื่มน้ำหลังอาหารกลางวัน ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูงประเภทอื่นๆได้.

ที่มา :
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ