10.10.08

การทำความสะอาดผิวหน้า(เป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิวหน้า)

การทำความสะอาดผิวหน้า(เป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิวหน้า)ปกติน้ำเปล่าจะทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีที่สุดถ้าหากใบหน้ามีแต่ฝุ่นละออง แต่สิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าเรา นอกจากจะมีสารที่ละลายน้ำ เช่น ฝุ่นละอองแล้ว ยังมีสารที่ละลายในไขมัน เช่น สารจากต่อมไขมัน เครื่องสำอางต่างๆ ดังนั้นการใช้น้ำอย่างเดียวไม่สามารถล้างสิ่งสกปรกที่เป็นไขมันออกได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวหน้าที่สามารถล้างสิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าเราออกให้หมด.การทำความสะอาดผิวหน้าไม่เหมือนการซักผ้า หรือล้างจาน เพราะถ้าขจัดไขมันออกมากเกินไป ก็จะขจัดสารให้ความชุ่มชื่นที่มีตามธรรมชาติบนผิวหน้าของเรา ทำให้เกิดเป็นผิวแห้งได้ เช่น ใช้สบู่หรือโฟมที่มีส่วนผสมของสบู่ทำความสะอาดผิวหน้า. โดยธรรมชาติแล้วชั้นนอกสุดของผิวหน้าเราจะปกคลุมด้วยสารเป็นฟิล์มบางๆ ที่มีส่วนผสมของสารหลายชนิดที่ได้จากต่อมไขมันและต่อมเหงื่อผสมผสานกัน มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ มี พีเอช (pH) ประมาณ 0.5-5.5 และมีสภาพประจุไฟฟ้าเป็นลบ.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ดี1.ต้องเป็นโฟมที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ทำความสะอาดผิวล้ำลึก สะอาดหมดจดไม่มีผลเสียต่อสารธรรมชาติบนผิว.2.ควรใช้โฟมที่ประกอบด้วยสารที่มีประจุลบ (ANIONIC) หรือไม่มีประจุ (NON-IONIC) เพราะทั้งสองชนิดไม่เป็นผลเสียต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างบนผิวหน้า เพราะใบหน้ามีประจุลบเหมือนกัน และโฟมที่มีสารประจุลบจะให้ฟองละเอียด ทำความสะอาดได้ดีกว่าโฟมไม่มีฟองหรือไม่มีประจุ.3.โฟมล้างหน้าที่ดีควรมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ประมาณ 0.5-5.5 เป็นค่าเดียวกับผิวหน้าเรา ซึ่งที่ pH นี้ผิวจะมีสุขภาพดีที่สุด ที่พีเอชนี้เชื้อราและแบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้.4.โฟมล้างหน้าที่ดีไม่ควรมีส่วนผสมของสบู่ (NON SOAP) เพราะสบู่โดยทั่วไปจะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) มากกว่า 7 ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ถ้าใช้ทำความสะอาดผิวเป็นประจำจะมีผลเสียต่อผิวเราทำให้ผิวแห้งตึงได้ นอกจากนี้สบู่หลายชนิดยังมีส่วนประกอบของไขมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันของต่อมไขมัน เกิดเป็นสิวได้.จริงหรือไม่ที่โฟมใส่สารบำรุงผิวต่างๆ จะช่วยได้จริงสารบำรุงผิวที่มีในโฟมล้างหน้าไม่ว่าเป็นวิตามินเอ,บี,ซี และอี หรือสารบำรุงผิวจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น สารช่วยให้หน้าขาวหรือลดริ้วรอยบนใบหน้า สารในโฟมเหล่านี้ไม่มีผลใดๆ ต่อผิวหน้าเลย เพราะโฟมล้างหน้าเราใช้เพื่อทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวหน้าเราเท่านั้น โฟมอยู่บนผิวหน้าไม่กี่วินาทีเราก็ล้างออกแล้ว ดังนั้นสารบำรุงต่างๆ ในโฟมก็ยังไม่ซึมผ่านใต้ผิวหน้าเราไป จึงไม่มีผลต่อผิวหน้าอย่างไรเลย.จริงหรือไม่ ผู้เป็นสิวควรใช้โฟมที่มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียไม่จริงเช่นกัน เพราะโฟมล้างหน้าอยู่บนผิวหน้าเราไม่กี่วินาทีเราก็ล้างออกหมด ดังนั้นตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีในโฟมก็ยังไม่ดูดซึม หรือยังไม่ออกฤทธิ์ ทำให้สิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้นก็ได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นสิวควรเลือกใช้โฟมที่อ่อนโยนต่อผิวหรือใช้สบู่เด็กอ่อนจะดีกว่า.
การทำความสะอาดผิวหน้า(เป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิวหน้า)ปกติน้ำเปล่าจะทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีที่สุดถ้าหากใบหน้ามีแต่ฝุ่นละออง แต่สิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าเรา นอกจากจะมีสารที่ละลายน้ำ เช่น ฝุ่นละอองแล้ว ยังมีสารที่ละลายในไขมัน เช่น สารจากต่อมไขมัน เครื่องสำอางต่างๆ ดังนั้นการใช้น้ำอย่างเดียวไม่สามารถล้างสิ่งสกปรกที่เป็นไขมันออกได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวหน้าที่สามารถล้างสิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าเราออกให้หมด.การทำความสะอาดผิวหน้าไม่เหมือนการซักผ้า หรือล้างจาน เพราะถ้าขจัดไขมันออกมากเกินไป ก็จะขจัดสารให้ความชุ่มชื่นที่มีตามธรรมชาติบนผิวหน้าของเรา ทำให้เกิดเป็นผิวแห้งได้ เช่น ใช้สบู่หรือโฟมที่มีส่วนผสมของสบู่ทำความสะอาดผิวหน้า. โดยธรรมชาติแล้วชั้นนอกสุดของผิวหน้าเราจะปกคลุมด้วยสารเป็นฟิล์มบางๆ ที่มีส่วนผสมของสารหลายชนิดที่ได้จากต่อมไขมันและต่อมเหงื่อผสมผสานกัน มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ มี พีเอช (pH) ประมาณ 0.5-5.5 และมีสภาพประจุไฟฟ้าเป็นลบ.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ดี1.ต้องเป็นโฟมที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ทำความสะอาดผิวล้ำลึก สะอาดหมดจดไม่มีผลเสียต่อสารธรรมชาติบนผิว.2.ควรใช้โฟมที่ประกอบด้วยสารที่มีประจุลบ (ANIONIC) หรือไม่มีประจุ (NON-IONIC) เพราะทั้งสองชนิดไม่เป็นผลเสียต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างบนผิวหน้า เพราะใบหน้ามีประจุลบเหมือนกัน และโฟมที่มีสารประจุลบจะให้ฟองละเอียด ทำความสะอาดได้ดีกว่าโฟมไม่มีฟองหรือไม่มีประจุ.3.โฟมล้างหน้าที่ดีควรมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ประมาณ 0.5-5.5 เป็นค่าเดียวกับผิวหน้าเรา ซึ่งที่ pH นี้ผิวจะมีสุขภาพดีที่สุด ที่พีเอชนี้เชื้อราและแบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้.4.โฟมล้างหน้าที่ดีไม่ควรมีส่วนผสมของสบู่ (NON SOAP) เพราะสบู่โดยทั่วไปจะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) มากกว่า 7 ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ถ้าใช้ทำความสะอาดผิวเป็นประจำจะมีผลเสียต่อผิวเราทำให้ผิวแห้งตึงได้ นอกจากนี้สบู่หลายชนิดยังมีส่วนประกอบของไขมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันของต่อมไขมัน เกิดเป็นสิวได้.จริงหรือไม่ที่โฟมใส่สารบำรุงผิวต่างๆ จะช่วยได้จริงสารบำรุงผิวที่มีในโฟมล้างหน้าไม่ว่าเป็นวิตามินเอ,บี,ซี และอี หรือสารบำรุงผิวจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น สารช่วยให้หน้าขาวหรือลดริ้วรอยบนใบหน้า สารในโฟมเหล่านี้ไม่มีผลใดๆ ต่อผิวหน้าเลย เพราะโฟมล้างหน้าเราใช้เพื่อทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวหน้าเราเท่านั้น โฟมอยู่บนผิวหน้าไม่กี่วินาทีเราก็ล้างออกแล้ว ดังนั้นสารบำรุงต่างๆ ในโฟมก็ยังไม่ซึมผ่านใต้ผิวหน้าเราไป จึงไม่มีผลต่อผิวหน้าอย่างไรเลย.จริงหรือไม่ ผู้เป็นสิวควรใช้โฟมที่มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียไม่จริงเช่นกัน เพราะโฟมล้างหน้าอยู่บนผิวหน้าเราไม่กี่วินาทีเราก็ล้างออกหมด ดังนั้นตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีในโฟมก็ยังไม่ดูดซึม หรือยังไม่ออกฤทธิ์ ทำให้สิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้นก็ได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นสิวควรเลือกใช้โฟมที่อ่อนโยนต่อผิวหรือใช้สบู่เด็กอ่อนจะดีกว่า. ที่มา: การทำความสะอาดผิวหน้า(เป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิวหน้า)ปกติน้ำเปล่าจะทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีที่สุดถ้าหากใบหน้ามีแต่ฝุ่นละออง แต่สิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าเรา นอกจากจะมีสารที่ละลายน้ำ เช่น ฝุ่นละอองแล้ว ยังมีสารที่ละลายในไขมัน เช่น สารจากต่อมไขมัน เครื่องสำอางต่างๆ ดังนั้นการใช้น้ำอย่างเดียวไม่สามารถล้างสิ่งสกปรกที่เป็นไขมันออกได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวหน้าที่สามารถล้างสิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าเราออกให้หมด.การทำความสะอาดผิวหน้าไม่เหมือนการซักผ้า หรือล้างจาน เพราะถ้าขจัดไขมันออกมากเกินไป ก็จะขจัดสารให้ความชุ่มชื่นที่มีตามธรรมชาติบนผิวหน้าของเรา ทำให้เกิดเป็นผิวแห้งได้ เช่น ใช้สบู่หรือโฟมที่มีส่วนผสมของสบู่ทำความสะอาดผิวหน้า. โดยธรรมชาติแล้วชั้นนอกสุดของผิวหน้าเราจะปกคลุมด้วยสารเป็นฟิล์มบางๆ ที่มีส่วนผสมของสารหลายชนิดที่ได้จากต่อมไขมันและต่อมเหงื่อผสมผสานกัน มีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ มี พีเอช (pH) ประมาณ 0.5-5.5 และมีสภาพประจุไฟฟ้าเป็นลบ.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ดี1.ต้องเป็นโฟมที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ทำความสะอาดผิวล้ำลึก สะอาดหมดจดไม่มีผลเสียต่อสารธรรมชาติบนผิว.2.ควรใช้โฟมที่ประกอบด้วยสารที่มีประจุลบ (ANIONIC) หรือไม่มีประจุ (NON-IONIC) เพราะทั้งสองชนิดไม่เป็นผลเสียต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างบนผิวหน้า เพราะใบหน้ามีประจุลบเหมือนกัน และโฟมที่มีสารประจุลบจะให้ฟองละเอียด ทำความสะอาดได้ดีกว่าโฟมไม่มีฟองหรือไม่มีประจุ.3.โฟมล้างหน้าที่ดีควรมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ประมาณ 0.5-5.5 เป็นค่าเดียวกับผิวหน้าเรา ซึ่งที่ pH นี้ผิวจะมีสุขภาพดีที่สุด ที่พีเอชนี้เชื้อราและแบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้.4.โฟมล้างหน้าที่ดีไม่ควรมีส่วนผสมของสบู่ (NON SOAP) เพราะสบู่โดยทั่วไปจะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) มากกว่า 7 ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ถ้าใช้ทำความสะอาดผิวเป็นประจำจะมีผลเสียต่อผิวเราทำให้ผิวแห้งตึงได้ นอกจากนี้สบู่หลายชนิดยังมีส่วนประกอบของไขมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันของต่อมไขมัน เกิดเป็นสิวได้.จริงหรือไม่ที่โฟมใส่สารบำรุงผิวต่างๆ จะช่วยได้จริงสารบำรุงผิวที่มีในโฟมล้างหน้าไม่ว่าเป็นวิตามินเอ,บี,ซี และอี หรือสารบำรุงผิวจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น สารช่วยให้หน้าขาวหรือลดริ้วรอยบนใบหน้า สารในโฟมเหล่านี้ไม่มีผลใดๆ ต่อผิวหน้าเลย เพราะโฟมล้างหน้าเราใช้เพื่อทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวหน้าเราเท่านั้น โฟมอยู่บนผิวหน้าไม่กี่วินาทีเราก็ล้างออกแล้ว ดังนั้นสารบำรุงต่างๆ ในโฟมก็ยังไม่ซึมผ่านใต้ผิวหน้าเราไป จึงไม่มีผลต่อผิวหน้าอย่างไรเลย.จริงหรือไม่ ผู้เป็นสิวควรใช้โฟมที่มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียไม่จริงเช่นกัน เพราะโฟมล้างหน้าอยู่บนผิวหน้าเราไม่กี่วินาทีเราก็ล้างออกหมด ดังนั้นตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีในโฟมก็ยังไม่ดูดซึม หรือยังไม่ออกฤทธิ์ ทำให้สิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้นก็ได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นสิวควรเลือกใช้โฟมที่อ่อนโยนต่อผิวหรือใช้สบู่เด็กอ่อนจะดีกว่า.